ถ้าถามถึงอาหารเสริมที่น่าจะร้อนแรงที่สุด (หรือเปล่านะ) ในเวลานี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น “ถั่งเช่า” อย่างแน่นอน เปิดทีวีช่องไหนก็เจอ ดีไม่ดีแม่คุณอาจจะโทร.สั่งมาแล้ว เตรียมจะไปเอาไหว้ญาติช่วงตรุษจีนด้วยซ้ำ (ฮ่าฮ่า) ไม่ต้องกังวลว่าเราจะห้ามซื้อ แค่อยากเรียบเรียงข้อมูลมาเล่าให้เข้าใจง่ายๆ ว่า มันกินได้ไหม มันอันตรายหรือเปล่าเท่านั้น
“ถั่งเช่า” มาจาก “ตังถั่งแห่เช่า” แปลว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” (โห อย่างกะสโลแกน) โดยหนอนจะฝังตัวจำศีลในหน้าหนาว เมื่อน้ำแข็งละลายปั๊บ สปอร์เห็ดจะพัดไปตกที่พื้นดิน จากนั้นตัวหนอนก็จะกินสปอร์เข้าไป พอฤดูร้อนสปอร์ก็โตเป็นเส้นใยโดยอาศัยสารอาหารจากตัวหนอนนั้น เส้นใยที่ว่านี้เองจะงอกออกจากท้องของตัวหนอน ออกมาคล้ายหุ้มตัวหนอนไว้คล้ายไม้กระบอก ส่วนตัวหนอนเองก็จะค่อยๆ ตายไป หนอนที่แห้งไปแล้วและเห็ดที่อยู่ภายในก็กลายเป็นถั่งเช่านั่นเอง
นอกจากกระบวนการของตัวมันเองจะซับซ้อนแล้ว ถิ่นที่อยู่ของถั่งเช่าก็ถือว่าซับซ้อนพอตัว เราจะพบถั่งเช่าได้ในแถบทุ่งหญ้าบนภูเขาประเทศจีน (ธิเบต) เนปาล และภูฏาน ด้วยระดับความสูง 10,000-12,000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล อากาศจึงหนาวเย็นมากๆ การจะได้ถั่งเช่าธรรมชาติมา ผู้เก็บก็ต้องมีใบอนุญาตและต้องขึ้นไปขุดหาถังเช่าที่จำศีลอยู่ใต้หิมะ แต่ในปัจจุบันก็มีการเพาะเลี้ยงเพื่อจำหน่ายด้วย ส่วนใหญ่จะเพาะในบริเวณภาคใต้ในมณฑลชิงไห่ เขตซางโตวในทิเบต มณฑลเสฉวน ยูนนาน และกุ้ยโจว
ถั่งเช่านั้นเป็นยาในตำราแพทย์แผนจีนจริงๆ จัดอยู่ในหมวดของยาที่บำรุงพลังหยาง ซึ่งพลังหยางในที่นี้คือความกระตือรือร้น ความร้อน ธาตุไฟ และพลังแห่งเพศชาย มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศจีนนานนับศตวรรษ ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงอวัยวะภายใน เช่น ปอด ตับ และไตได้ ถ้าเป็นคนที่มีพลังหยางของไตน้อย ซึ่งขี้หนาว แขนขาเย็น ปัสสาวะบ่อย ปวดเอวปวดเข่าเรื้อรัง ถั่งเช่าช่วยได้ หากเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเพราะขาดพลังหยาง ถั่งเช่าก็ช่วยได้ แต่หากขาดสมรรถภาพทางเพศเพราะสาเหตุอื่น เช่น อายุ ความเครียด การติดขัดของลมปราณและเลือด ถั่งเช่าก็เอาไม่อยู่เช่นกัน
* อ้างอิงข้อมูลการแพทย์แผนจีนและตัวยาจากเพจหมอแนน แพทย์จีน TCM และสำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ขึ้นชื่อว่ายาย่อมจะต้องมีสารออกฤทธิ์ต่อร่างกายอย่างจริงจังและเกิดผลข้างเคียงได้ ถ้าซื้อกินกันเองตามใจก็เสี่ยงต่ออันตรายร้อยแปด ไม่ว่าจะเป็น ฤทธิ์ร้อนของตัวถั่งเช่าเองที่่ไม่ได้เหมาะจะกินในสภาพอากาศแบบบ้านเราที่ร้อนอยู่แล้ว ปริมาณที่ไม่เหมาะสม เพราะถ้าเป็นสารสกัดหรืออยู่ในแคปซูลเราไม่สามารณกะเกณฑ์ได้จริงๆ ว่าแต่ละเม็ดมีถั่งเช่าเท่าไร กินกี่เม็ดถึงจะพอ เพราะร่างกายแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ยิ่งถ้ากินเป็นประจำก็เสี่ยงจะกลายเป็นสารส่วนเกินไปทำร้ายไตให้ทำงานหนักขึ้นเปล่าๆ นอกจากนี้ ถั่งเช่าแท้มีราคาสูงและหายากดังที่เล่าไปแล้วในภาพก่อนๆ จึงเกิดพ่อค้าที่ขายถั่งเช่าแบบผงแล้วผสมโลหะหนักเข้าไป เพื่อเพิ่มน้ำหนักให้ได้ราคามากขึ้นก็มี
ในกรณีที่ผู้ที่มีโรคประจำตัว (เช่น พ่อแม่เราที่อาจจะสั่งถั่งเช่ามาเรียบร้อยแล้ว) ถั่งเช่ายิ่งอันตรายเข้าไปอีก เพราะฤทธิ์ของถั่งเช่าอาจส่งผลข้างเคียงบางอย่าง และอาจต้านหรือไปเสริมฤทธิ์กับยาประจำทำให้อาการกำเริบแทน
เช่น ผู้ป่วยความดันโลหิตต่ำหรือโรคเบาหวาน ถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดความดัน ลดน้ำตาล หรืออาจไปเสริมฤทธิ์กับยาลดความดัน ลดน้ำตาลในเลือดเดิม ทำให้ความดันตก น้ำตาลตก หน้ามืดเป็นลมได้ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบและอุดตันที่กินยาละลายลิ่มเลือดอยู่แล้วก็ไม่ควรกินถั่งเช่า เพราะมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด ผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน (immunosuppressive) ถั่งเช่าก็อันตรายเพราะมีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน หรือในกรณีที่แพ้ภูมิตัวเอง ถังเช่าอาจจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันมากเกินไปจนอาการกำเริบได้อีกด้วย ยิ่งบางคนจะกินถั่งเช่าเลยหยุดยาโรคประจำตัวซะเองเลย แบบนี้ยิ่งอันตราย ทำไม่ได้โดยเด็ดขาด
รู้แบบนี้แล้วรีบไปเบรกพ่อแม่ไว้ก่อน (เนียนเซฟภาพขายหัวเราะพวกนี้ส่งไปทางไลน์) เพราะถั่งเช่าไม่ได้มีแต่ประโยชน์ และอาจเป็นโทษได้ถ้ากินแบบขาดความรู้ กินในปริมาณไม่เหมาะสม หรือโชคร้ายเจอแบบที่ปนเปื้อน อย่างดีก็อาจจะไม่อันตรายแต่เสียเงินไปเปล่าๆ เพราะเราแทบไม่ได้ประโยชน์สักเท่าไหร่ แถมไตจะทำงานหนักด้วย
อย่างไรก็ดี ถึงถั่งเช่าจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่ปฏิทินขายหัวเราะของเราเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ซื้อไปใช้แล้วทั้งโชคดี ทั้งสุขภาพจิตดีอย่างแน่นอน สั่งได้ที่ Minimore Store คลิก ซื้อได้เลย ของแท้ของดีไม่มีมั่วนิ่มจ้าา