Skip to content
Content

ไม่มีคำว่า (น้ำท่วม) ซู้งงง ลุยได้หากใจถึงงง…

จากสภาพอากาศแบบช่วงนี้ เชื่อว่าหลายคนคงต้องประสบกับสภาวะชีวิตดีๆ ที่ไม่ลงตัว ฝนตก น้ำท่วมขัง กลัวรถพังไม่กล้าลุย วันนี้ขายหัวเราะมาพร้อมกับคำแนะนำง่ายๆ ที่จะทำให้คุณลุยน้ำได้แบบปลอดภัยและรถไม่ดับมาฝากกัน

 

 

เมื่อสภาพอากาศ สภาพถนนวางใจไม่ได้ รถและตัวเรายิ่งต้องวางใจได้ ก่อนออกเดินทางหมั่นเช็กรถให้ดี ทั้งที่ปัดน้ำฝน น้ำมัน หม้อน้ำ ผ้าเบรกและลมยาง ไม่ว่าจะฝนจะตกหรือไม่ ข้อนี้ก็ควรทำอย่างสม่ำเสมอ ส่วนคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ นอกจากรถแล้วอุปกรณ์ต่างๆ ต้องจัดเต็มทั้งหมวกกันน็อก เสื้อกันฝน และไฟฉายในกรณีที่ต้องขอความช่วยเหลือ

 

 

 

ก่อนจะลุยน้ำต้องมาประเมินระดับความลึกของน้ำที่ท่วมกันก่อน โดยดูระดับน้ำบนถนนเทียบกับระดับความสูงของทางเท้า ปกติแล้วทางเท้าจะสูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร ส่วนระดับน้ำที่รถไปไม่ไหวแน่ๆ คือ 30 เซนติเมตร ดังนั้นถ้าน้ำสูงเกินทางเท้าหรือสูงถึงขอบประตูรถเมื่อไหร่ก็เปลี่ยนไปใช้แผนสองได้ทันที

 

 

 

หากยังเปิดแอร์ พัดลมแอร์จะยังทำงานและพัดน้ำเข้าไปในห้องเครื่องจนเครื่องน็อกได้ นอกจากนี้เมื่อลุยน้ำเสร็จแล้วให้ลองเช็กดูที่มอเตอร์พัดลมด้วย เพราะอาจมีขยะหรือใบไม้ติดค้างมาจากตอนลุยน้ำ

 

 

 

ถ้าขับด้วยความเร็วสูงรถอาจเสียการทรงตัวได้ ถ้าเร่งรอบสูงเกินไปน้ำจะเข้าท่อไอเสีย ดังนั้นเวลาขับลุยน้ำควรใช้ความเร็วที่ต่ำและสม่ำเสมอ รถเกียร์ธรรมดาให้เข้าเกียร์ 2 ส่วนเกียร์ออโต้ให้เข้าเกียร์ L เลี้ยงรอบให้นิ่งประมาณ 1,500–2,000 รอบต่อนาที

 

 

 

เมื่อขับรถลุยน้ำประสิทธิภาพของผ้าเบรกจะลดลงทำให้บางทีก็เบรกไม่อยู่ ประกอบกับทัศนวิสัยที่มองไม่ค่อยเห็นทำให้กะระยะในการเบรกลำบาก เพื่อความปลอดภัยเราควรรักษาระยะห่างระหว่างรถให้มากกว่าเดิม 2-3 เท่า

 

 

 

เมื่อมีรถสวนมาให้ชะลอความเร็วแต่เนิ่นๆ เพราะแรงปะทะจะทำให้เกิดคลื่นชนกัน น้ำจะสูงขึ้นอีก และอาจกระฉอกเข้ามาในเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าได้

 

 

 

ข้อนี้ต้องจำให้ขึ้นใจ หากลุยน้ำแล้วเครื่องยนต์ดับอย่าสตาร์ตรถใหม่เด็ดขาด เพราะน้ำจะเข้าเครื่อง ควรขอความช่วยเหลือหารถลากออกจากระดับน้ำที่สูงไปก่อน เพราะถ้าสตาร์ตรถใหม่ขณะที่ลุยน้ำจะยิ่งทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์ ที่ทำมาทุกข้อ เท่ากับศูนย์ทันที

 

 

 

เมื่อถึงที่หมายแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงต่อไปคือมีน้ำค้างอยู่ตรงไหนในรถอีกบ้าง ควรจอดรถไว้สักครู่โดยไม่ต้องดับเครื่องเพื่อให้น้ำที่ตกค้างอยู่ในหม้อพักท่อไอเสียระเหยออกมา นอกจากนี้รถเกียร์ธรรมดาควรย้ำคลัตช์สักหน่อยเพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น ส่วนรถเกียร์ออโต้ต้องย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรกด้วย

 

 

“สติ” คือเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่ต้องพกติดตัวไปด้วยตลอด แล้วอย่าลืมเมมเบอร์ฉุกเฉินต่างๆ เอาไว้ เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ใช้
.
1543 สายตรงทางด่วน
1197 ข้อมูลการจราจร
1193 ตำรวจทางหลวง
1554 หน่วยกู้ชีพวชิรพยาบาล
1669 เจ็บป่วยฉุกเฉิน
ดูแลรถในสภาวะน้ำท่วมขังไปแล้ว อย่าลืมดูแลตัวคุณเองและคนรอบข้างให้ปลอดโรค-ปลอดภัย สวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้านด้วยนะ . อย่างหน้ากากผ้ากันน้ำป้องกัน 2 ชั้น ลาย บ.ก. วิติ๊ดรุ่นนี้ รับรองใส่แล้วปลอดภัย ไม่ซ้ำใคร (ง่ายๆ ) แน่นอน
.
สั่งซื้อที่ ▸ https://bit.ly/banluemask2 ได้เล้ยยย 😀
.
ก่อนความสัมพันธ์จะยุ่งเหยิงเกินแก้

🥲 สื่อสารกันให้เข้าใจก่อนความสัมพันธ์จะยุ่งเหยิงเกินแก้ แต่ถ้าพบเห็นสายสื่อสารรกรุงรัง ตกหย่อน เป็นอันตรายแจ้งได้ที่ ผู้ให้บริการเจ้าของสาย ...