ก่อนวัคซีนลอตที่ 2 จะพร้อมฉีด ขายหัวเราะอยากให้คุณผู้อ่านทุกท่านมาเตรียมตัวให้พร้อมไปด้วยกัน มัดรวมข้อมูลแบบครบจบในโพสต์เลยว่า เขาฉีดกันไปถึงไหนแล้ว เราจะได้ฉีดเมื่อไหร่ ก่อนฉีด-หลังฉีดต้องดูแลตัวเองยังไง รวมถึงมันน่าจะมีอาการข้างเคียงยังไงได้บ้าง
การแจกจ่ายวัคซีนในประเทศไทยแบ่งเป็น 2 ระยะด้วยกัน ระยะแรก (ก.พ.-พ.ค. 2564) เราทำการฉีดวัคซีน ‘Sinovac’ ต่อเนื่องกันมา 15 วันแล้ว โดยประชากร 5 กลุ่มที่ได้รับวัคซีนในรอบนี้ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน ประชาชนที่มีโรคประจำตัว (โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็งที่อยู่ในระหว่างเคมีบำบัด โรคเบาหวาน โรคอ้วน น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) ประชาชนที่มีอายุ 60 ขึ้นไป เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย รวมทั้งประชาชนทั่วไปและแรงงานในพื้นที่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งก็ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดที่ยังพบผู้ป่วย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ระยอง ชลบุรี จันทบุรี ตราด และตาก
สำหรับคนที่ถามว่าเราจะได้ฉีดตอนไหน ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นระยะที่ 2 เมื่อวัคซีนมากขึ้นและเพียงพอ โดยจะฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่ม คือ ประชาชนทั่วไป แรงงานในภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว (พนักงานโรงแรม สถานบันเทิง มัคคุเทศก์) ผู้เดินทางระหว่างประเทศ (นักบิน ลูกเรือ นักธุรกิจระหว่างประเทศ นักการทูต เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ) รวมไปถึงกลุ่มเป้าหมายระยะที่ 1 ในจังหวัดที่เหลืออยู่ และบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับจากรอบแรกนั่นเอง
สำหรับประชาชนที่จะรับวัคซีน (ต้องเข้าเกณฑ์ของแต่ละระยะด้วยนะ) ต้องสมัครและเลือกโรงพยาบาล เลือกวัน เวลาที่โรงพยาบาลได้เปิดให้จองสิทธิ์ผ่าน Line Official “หมอพร้อม” ถ้าไม่สะดวกใช้สมาร์ตโฟนสามารถลงทะเบียนที่สถานพยาบาลได้ เช่น ในกรุงเทพมหานคร สามารถลงทะเบียนผ่านโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครและโรงพยาบาลเอกชน จำนวน 16 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ 7 แห่งตามรายชื่อสถานพยาบาลเหล่านี้ https://news.trueid.net/detail/de03v01J6AYW
ถ้าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบและยืนยันสิทธิ์ พร้อมจองสิทธิ์นัดหมายรับวัคซีนตามวัน เวลา และสถานที่ปรากฏในระบบ ได้ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. 64 เป็นต้นไป
ส่วนประชาชนในต่างจังหวัด โรงพยาบาลประจำจังหวัดและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจะเป็นฝ่ายเปิดรับลงทะเบียน ให้เดินทางมายังสถานที่ที่ภาครัฐกำหนด แต่ในขณะนี้จะให้บริการเฉพาะพื้นที่เสี่ยงเท่านั้น
ก่อนจะฉีดวัคซีน มีข้อควรระวังดังนี้
1. ร่างกายเราพร้อมฉีดไหม
- หากตั้งครรภ์ ควรเลื่อนนัดฉีดเป็นช่วงหลังคลอด
- ป่วยเป็นไข้ ท้องเสีย ควรเลื่อนนัดฉีดไปก่อนจนกว่าหายดี
2. ประวัติการแพทย์ โรคประจำตัว แพ้วัคซีน แพ้ยา หรือกินยาอะไรประจำ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน
3. พักผ่อนให้เพียงพอ
4. ไม่ควรงดอาหารก่อนการฉีดวัคซีน
5. ไม่ควรกินยาแก้ไข้หรือยาแก้ปวดก่อนฉีดวัคซีน เพราะยาอาจไปกดภาวะการอักเสบทำให้การตอบสนองของวัคซีนลดลง
แม้จะรอกันมาเนิ่นนาน แต่ขั้นตอนในการรับวัคซีนมีแค่ 6 ขั้นตอนสั้นๆ ดังนี้
สถานีที่ 1 ลงทะเบียนทำบัตร ยืนยันความถูกต้อง (ใช้บัตรประชาชน)
สถานีที่ 2 ชั่งน้ำหนักและวัดความดันโลหิต
สถานีที่ 3 คัดกรองและซักประวัติ ตรวจสอบสภาพร่างกายว่าพร้อมไหม ให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวัคซีน
สถานีที่ 4 นั่งรอคิว แบบ distancing เพื่อฉีดวัคซีน เข็มที่มาฉีดจะติดชื่อเราและลงทะเบียนคู่กับขวดวัคซีน
สถานีที่ 5 ยืนยันการฉีดในระบบ โหลดแอปหมอพร้อมเพื่อติดตามผล ติดสติกเกอร์นั่งรอ 30 นาที
สถานีที่ 6 คือ จุดตรวจสอบสุดท้ายก่อนกลับ เพื่อตรวจสอบวัน-เวลานัดหมายรอบต่อไป
หลังฉีดวัคซีนไปแล้ว เป็นเรื่องปกติที่เราอาจปวดตรงที่ฉีด อ่อนเพลีย ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หนาวหรือเป็นไข้ได้ แต่ถ้ามีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะรุนแรง แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ผื่นขึ้นทั้งตัว มีอาการแขนขาอ่อนแรง ต้องรีบไปโรงพยาบาล หรือโทร.1669 เพื่อรับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน
สำหรับท่านที่ฉีดแล้วสบายดี ควรติดตามอาการตนเองภายหลังได้รับวัคซีนวันที่ 1, 7 และ 30 ให้ดีๆ และต้องไปรับวัคซีนเข็มที่สองตามที่นัดหมายไว้
แม้วัคซีนจะป้องกันการติดเชื้อแบบรุนแรงได้ แต่วัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อได้ทั้งหมด แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ยังสามารถติดเชื้อทั้งที่มีหรือไม่มีอาการได้ ผู้รับวัคซีนยังคงต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ การรักษาระยะห่าง และหากมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ควรมาพบแพทย์เพิ่มเติมเพื่อตรวจวินิจฉัยหรือทำการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
แต่ถ้าอยู่บ้านแล้วเบื่อ ขายหัวเราะทุกช่องทางทั้งหนังสือการ์ตูน Podcast และ TikTok พร้อมอยู่เคียงข้างคุณเสมอไม่ไปไหน ที่สำคัญต้องใส่หน้ากากออกจากบ้านทุกครั้งนะจ๊ะ
ป.ล. ถ้าหน้ากากที่บ้านยังน้อยไป สั่งซื้อหน้ากากจากขายหัวเราะได้ที่นี่เลย https://bit.ly/banluemask2 ป้องกัน 2 ชั้น การันตีซักได้ 30 ครั้งเชียวนะ